เปิดใจ “แหม่ม อลิษา” อดีตนางเอกดัง ชีวิตพลิกผันมาขายอาหารตามสั่ง
วันนี้จะพามาเปิดใจ “แหม่ม อลิษา” อดีตนางเอกดัง ชีวิตพลิกผันมาขายอาหารตามสั่ง หลังจากสิ่งต่างๆ รุมเร้าไม่หยุดทำให้สภาพชีวิตพลิกผันจากนางเอกแนวหน้า สู่การเป็นแม่ค้าร้านตามสั่ง ขอสู้ชีวิตช่วงบั้นปลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตนางเอกสาว “แหม่ม-อลิษา ขจรไชยกุล” ที่ห่างหายไปจากวงการบันเทิงนานหลายปี ปัจจุบันผันตัวออกจากวงการ
และมาเปิดขายอาหารตามสั่งใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย หลังเผชิญหน้ากับมรสุมชีวิตอย่างหนัก ส่งออกสินค้าแฮนเมดขาดทุนยับ
กลายเป็นหนี้กว่า 10 ล้านบ. ทำให้ทรัพย์สินแทบไม่เหลือ ซ้ำยังต้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและอีกหลายโรครุมเร้า ก่อนผันตัวมาเป็นแม่ค้าอาหารตามสั่ง หวังหล่อเลี้ยงชีวิตช่วงบั้นปลาย
แหม่ม อลิษา เข้าครัวทำอาหารตามสั่งให้กับลูกค้าอย่างตั้งใจ ก่อนนำไปเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ พร้อมกับลงมือทำงานทุกๆ อย่างด้วยตัวเอง ทั้งออกไปจ่ายตลาด ทำอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาดครัว
เพราะยังไม่มีรายได้มากพอที่จะจ้างใครมาช่วยงาน แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะอายุที่มากขึ้นและมีโรคประจำตัว แต่อดีตนางเอกสาวก็ยังคงมีรอยยิ้มและกำลังใจต่อสู้กับชีวิตที่เปลี่ยนไป
แหม่ม อลิษา เปิดเผยว่า หลังจากการบริหารงานส่วนตัวไม่เป็นตามคาดหวัง และกลายเป็นหนี้ท่วมหัว ทำให้เกิดภาวะเครียดจัด ประกอบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
ทำให้รู้สึกเครียดมากขึ้น ต้องกินยาลดความอ้วนอย่างหนัก แต่ก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดกลายเป็นคนจิตตก นำมาสู่อาการโรคซึมเศร้า ทำให้ต้องปลีกตัวออกจากวงการบันเทิง
เจ้าตัวยอมรับว่า ชีวิตในช่วงนั้นเคยเครียดหนักถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ก็ตั้งสติในการใช้ชีวิตและค่อยๆ ผ่านมาได้ หลังจากนั้นก็มาพบว่าตัวเองป่วย
เป็นโรคความดัน โรครูมาตอยด์ ต้องกินยาวันละสิบกว่าเม็ด ล่าสุดไม่นานมานี้ก็ตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมาอีก ทำให้แต่ละวันต้องกินยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงชีวิตที่ต้องประสบกับปัญหาเรื่องหนี้สินและปัญหาสุขภาพ ทำให้ตัดสินใจทำอาหารขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบและถนัด โดยแผงตั้งขายอาหารตามสั่งหน้าคอนโดมีเนียมในเมืองทองธานีหลายปี
แต่สุดท้ายก็ต้องย้ายออกจาก จนกระทั่งมีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้เจอกับเจ้าของร้านกาแฟที่ใจดี
ให้โอกาสเช่าพื้นที่เปิดขายอาหารตามสั่งภายในร้าน โดยคิดค่าเช่าในราคาถูก จึงตัดสินใจต่อสู้ครั้งสุดท้าย พาสุนัขชิวาวาคู่ใจย้ายมาปักหลักขายอาหารตามสั่งที่นี่
“ที่ผ่านมาเหนื่อยล้าหลายอย่าง แต่ทุกวันนี้พี่อยู่ได้ด้วยกำลังใจที่หลายๆ คนมอบให้ ปัญหาโรคซึมเศร้าก็เริ่มดีขึ้น หลังจากพี่ยอมรับความจริง
และเริ่มเข้าสู่การรักษามาได้ปีกว่า วันนี้อยากให้ช่วยกันมาอุดหนุนหรือแวะมาทักทายกันที่ร้าน เพราะคิดว่าเป็นการสู้ครั้งสุดท้ายของตัวเอง ยอมรับว่าเสี่ยง แต่ก็ต้องสู้ต่อไปค่ะ”
ทั้งนี้ แหม่ม อลิษา ยอมรับว่า ยังเป็นกังวลกับความอ้วนของตัวเอง และหวังจะหวนกลับไปมีผลงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง แต่ก็คิดว่าคงจะเป็นไปได้ยาก
แม้จะยังรักในงานด้านการแสดง แต่เพราะอาการเจ็บป่วยอาจจะกระทบต่อการทำงานได้ แต่หากผู้จัดท่านใดสนใจก็สามารถเรียกตัวเป็นแสดงเป็นดารารับเชิญได้เสมอ
ขอเป็นกำลังใจให้คนสู้ชีวิตอย่างคุณ “แหม่ม อลิษา” ด้วยนะคะทุอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอนค่ะ